ตรวจ STD โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ไม่ควรมองข้าม

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งในผู้หญิง ผู้ชาย และเพศทางเลือก ความอันตรายของโรคติดต่อทางเพศคือ เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง และการติดเชื้อจากมารดาไปสู่ทารกในครรภ์ ด้วยเหตุนี้ Boston Health จึงไม่นิ่งนอนใจ สร้างบริการตรวจ STD ที่ได้คุณภาพและมาตรฐาน เพื่อคลายความกังวลและตั้งรับกับภัยร้ายจากโรคทางเพศเหล่านี้ให้แก่คุณ

เรียนรู้โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

โรค STD คืออะไร? รู้ทัน ป้องกัน หลีกเลี่ยงได้

STD (sexually transmitted disease) หรือภาษาไทย คือ กามโรค หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ คือ โรคที่ติดต่อผ่านกิจกรรมทางเพศ ทั้งทางอวัยวะเพศ ทวารหนัก และปาก ผ่านสารคัดหลั่งต่าง ๆ ปัจจุบันโรคติดต่อทางเพศยังเป็นปัญหาที่พบได้อย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ทั้งในชาวไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย ซึ่งสามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ ถ้าหากไม่ทำการรักษาอย่างทันถ่วงที ดังนั้นการตรวจและการรักษากามโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้นหรือระยะไม่แสดงอาการจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

คลินิกรักษากามโรค ใกล้ฉัน

เพิ่มเพื่อน

Ploy

ดร.พลอย

Licensed Doctor

ตรวจโรค std เชียงใหม่

โรคจากเพศสัมพันธ์มีอะไรบ้าง?

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถเกิดได้จากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อรา ซึ่งทั้งหมดสามารถก่อให้เกิดโรคและต้องได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม โรคที่พบได้ส่วนใหญ่ คือ

  • หนองใน (Gonorrhea)
  • หนองในเทียม (Chlamydia)
  • ซิฟิลิส (Syphilis)
  • เริม (Herpes simplex)
  • เชื้อราแคดิดา (Candida albicans)
  • ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B)
  • เชื้อเอชไอวี (HIV)
  • เชื้อไวรัสมะเร็งปากมดลูก (HPV)

ทาง Boston Health ของเรานั้นได้ใส่ใจถึงปัญหาสุขภาพเพศ จึงได้สร้างบริการตรวจ STD รักษาโรคติดต่อทางเพศที่ครบจบในที่เดียว

แนวทางป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่คุณก็ทำได้

  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และมีการป้องกันทุกครั้งโดยถุงยางอนามัย
  • ผู้ชายใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งโดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีในกรณีที่มีความเสี่ยง โดนเฉพาะคู่แต่งงานใหม่
  • งดการร่วมเพศขณะมีประจำเดือน เพราะการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างมีประจำเดือนเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดโรค
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงจนเกิดการบาดแผลที่อวัยวะเพศ หรือทวารหนัก

ตรวจ STD คืออะไร?

การตรวจ STD แบ่งได้เป็นการตรวจ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ การตรวจจากเลือด และการตรวจจากสารคัดหลั่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เลือด ซึ่งในแต่ละโรคติดต่อทางเพศนั้นก็มีการตรวจที่แตกต่างกัน หลัก ๆ จะมีการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนี้

  • การตรวจจากเลือด เชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ส่งตรวจได้จากเลือด ได้แก่ เชื้อเอไอวี (HIV) ไวรัสตับอักเสบเอ (Hepatitis A) ไวรัสตับอักเสบบี (Hepatitis B) ไวรัสตับอักเสบซี (Hepatitis C) ซิฟิลิส (Syphilis)
  • การตรวจจากสารคัดหลั่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เลือด ส่วนใหญ่จะเป็นปัสสาวะ เชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ส่งตรวจได้ ได้แก่ หนองใน (Gonorrhea) หนองในเทียม (Chlamydia) ซิฟิลิส (Syphilis) เริม (Herpes simplex) เชื้อราแคดิดา (Candida albicans) เป็นต้น

ใครบ้างควรตรวจ STD?

การตรวจ STD จะไม่รวมในการตรวจสุขภาพทั่วไป และมักจะตรวจในกลุ่มประชากรเสี่ยง ได้แก่

  • บุคคลที่กำลังวางแผนแต่งงานหรือมีลูก เนื่องจากโรคติดต่อทางเพศบางโรค เช่น เอชไอวี สามารถส่งต่อไปที่ลูกได้
  • บุคคลที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย
  • บุคคลที่เพิ่งมีการเปลี่ยนคู่นอนใหม่
  • บุคคลที่เพิ่งรู้ว่าแฟนหรือคนรักนอกใจไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น
  • บุคคลที่มีคู่นอนหลายคน ควรได้รับการตรวจโรคเป็นประจำ
  • บุคคลที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • บุคคลที่เริ่มมีอาการของโรค เช่น มีแผลหรือผื่นที่อวัยวะเพศ ปัสสาวะแล้วเจ็บ เป็นต้น
โปรแกรมตรวจ std เชียงใหม่
ตรวจ std ผู้หญิง-ตรวจ std ผู้ชาย

ความแตกต่างของตรวจ STD ผู้ชายและตรวจ STD ผู้หญิง

ส่วนใหญ่ในเพศชายและหญิง จะมีการตรวจ STD ที่เหมือนกัน แต่จะมีในบางโรคที่มีอาการแสดงของโรคที่แตกต่างกัน ทำให้มีการเก็บสิ่งส่งตรวจ STD นั้น แตกต่างกันในเพศหญิงและเพศชาย

การตรวจ STD ผู้ชาย

การเก็บสิ่งส่งตรวจของผู้ชาย จะเก็บจากเลือดและปัสสาวะเป็นหลัก แบ่งตามตัวโรค นอกจากนี้อาจจะเก็บจากหนองหรือชิ้นเนื้อที่รอยโรค ถ้ามีอาการแสดง

การตรวจ STD ผู้หญิง

การเก็บสิ่งส่งตรวจของผู้หญิง จะเก็บจากเลือด ปัสสาวะ และสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ โดยสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ สามารถเก็บได้โดยแพทย์หรือผู้ใช้บริการก็ได้ โดยใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน

ในผู้หญิงอีกโรคที่ไม่ควรมองข้ามคือ เชื้อมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถเก็บได้จากสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศหรือ Pap smear โดยแพทย์

โปรแกรมตรวจ STD ราคาประหยัดจาก Boston Health

โปรแกรมการตรวจ STD ของ Boston แบ่งเป็นการตรวจเลือด และการตรวจจากปัสสาวะ เป็นหลัก

  • การตรวจจากเลือด เริ่มต้นที่ราคา 500 บาทเป็นต้นไปตามแต่ตัวโรค ซึ่งปกติการตรวจด้วยเลือดจะเน้นตรวจเชื้อเอชไอวี และไวรัสตับอักเสบ ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ในปัสสาวะ
  • การตรวจจากปัสสาวะ เริ่มต้นที่ราคา 3550 บาทเป็นต้นไป ตามแต่ตัวโรค โดยเริ่มที่ 2 โรคที่พบได้บ่อยที่สุด

สามารถสอบถามรายละเอียดได้กับทางคลินิก ทางช่องทางติดต่อต่าง ๆ

โรคเกี่ยวกับเพศสัมพัน เชียงใหม่

คำถามที่พบบ่อยของการตรวจโรคติดต่อทางเพศ

คลินิก Boston Health ของเราพร้อมเป็นคลินิกตรวจรักษา STD (sexually transmitted diseases) ครบวงจรของชาวเชียงใหม่ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ หากมีความกังวลหรือพบว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถเข้ามาใช้บริการได้เลย ทางทีมแพทย์และบุคคลากรของเรา พร้อมดูแลคุณอย่างมืออาชีพ

คลินิก Boston Health ของเราให้บริการในการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยถ้าตรวจเจอโรคสามารถจ่ายยาและรักษาต่อเนื่องได้ที่คลินิก และสามารถติดตามผลหลังการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่เกิดโรคติดต่อทางเพศที่ดื้อยา ทางคลินิกมีเครือข่ายที่พร้อมส่งต่อไปยังแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

คลินิก Boston Health ของเรามีโปรแกรมตรวจ STD หรือตรวจกามโรค ราคาเริ่มต้น 3,550 บาทสำหรับโรค ติดต่อเพศสัมพันธ์ โดยเก็บสิ่งตรวจทางปัสสาวะหรือสารคัดหลั่งจากอวัยวะเพศ และ ราคาเริ่มต้น 500 บาทสำหรับสิ่งส่งตรวจจากเลือด นอกจากนี้คลินิกยังมีการส่งตรวจแยกในกรณีที่ผู้ใช้บริการต้องการตรวจแยกเป็นรายโรค

โรคกามโรค หรือ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์คือ โรคที่ติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่ง ซึ่งมักติดเชื้อทางเพศได้จากกิจกรรมทางเพศทั้งทางอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือปาก วิธีการตรวจกามโรคที่นิยมคือการตรวจทางปัสสาวะ หรือสารคัดหลั่งจากอวัยวะ ซึ่งแตกต่างกันไปในเพศหญิงและชาย

การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ STD (sexually transmitted diseases) มีความจำเป็นในกลุ่มของคนที่มีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ หรือมีปัจจัยเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน หรือ ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย หากคุณเป็นกลุ่มเสี่ยง หรือมีความกังวลในเรื่องโรคเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ Boston Health พร้อมเป็น คลินิกตรวจ STD ใกล้ฉัน ให้แก่ผู้ใช้บริการทุกท่านอย่างเต็มที่

การตรวจโรคกามโรค โดยปกติแล้วไม่ได้มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่ซับซ้อนอะไร สามารถมาตรวจได้เลยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้ยาสอดหรือกินยาก่อนได้รับการตรวจ ถ้าได้รับยาควรแจ้งแพทย์ก่อนเพื่อประเมินแนวทางการดูแลรักษา